How to work happily "ทำงานอย่างไรให้มีความสุข"

ความสุขคืออะไร? เป็นคำถามที่เหมือนจะตอบง่าย แต่ก็ตอบได้ยาก เพราะความสุขของแต่ละคนนั้น ไม่เหมือนกัน แต่ความสุขในการทำงาน คือ การรับรู้ทางอารมณ์ของพนักงานในทางที่ดีต่อภารกิจที่ได้รับมอบหมาย สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การได้รับการยกย่อง การยอมรับ ความมั่นคง ความก้าวหน้า หรือแม้กระทั่งความปลอดภัยในการทำงาน รวมไปถึงปัจจัยทางด้านบุคคล เช่น เพื่อนร่วมงานที่ดีหรือหัวหน้างานที่เมตตา ซึ่งทั้งหมดเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ และเป็นสิ่งที่บุคลากรทุกคนในองค์กรล้วนปรารถนา เพราะเป็นตัวสร้างความผูกพันและแรงจูงใจในองค์กร โดยจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน การสร้างความจงรักภักดีของพนักงาน และลดอัตราการลาออกให้น้อยลง
แต่ทุกวันนี้เรามักใช้เวลาในการทำงานเพิ่มขึ้นทำงานหนักขึ้น เพราะคิดว่าการทำงานหนัก จะทำให้เราประสบความสำเร็จและมีความสุข อีกทั้งยังเป็นการทำงานในยุคที่มีแต่การแข่งขัน หากไม่กระตือรื้อร้น ปรับตัวไม่ทัน ก็อาจตกเทรนด์ไปได้ง่าย ๆ หลายคนจึงเริ่มไม่มีความสุขกับการทำงาน ไม่มีเวลาให้ครอบครัว ไม่มีเวลาพักผ่อนหย่อนใจ จนกลายเป็นความทุกข์ในอีกรูปแบบหนึ่ง ทำให้เกิดผลกระทบกับประสิทธิภาพของการทำงาน จึงเกิดเป็นคำถามขึ้นว่า เราจะทำงานให้มีความสุขได้อย่างไร? ซึ่งสามารถหาคำตอบได้จากเคล็ดลับดี ๆ ดังนี้
6 วิธีที่จะช่วยให้คนทำงานมีความสุขมากขึ้น
1. การตั้งเป้าหมาย
การที่เราทำงานตามคนอื่นไปเรื่อย ๆ มีอะไรเกิดขึ้นใหม่ก็ทำตามไปตลอด ไม่มีเป้าหมายการทำงานเป็นของตัวเอง การทำงานหนักจึงไม่มีจุดสิ้นสุด จนเกิดเป็นความท้อแท้ในจิตใจ หาความสุขให้ตัวเองไม่เจอ การมองเห็นเป้าหมายปลายทางจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะช่วยให้เรารู้จักตัวเองชัดเจนขึ้น มีเป้าหมายในการทำงานแต่ละขั้นและที่สำคัญคือจะทำให้เรามีความสุขในการทำงานได้ง่ายขึ้น
2. ตัดสิ่งไม่สำคัญออก
เมื่อเรามีเป้าหมายในการทำงานแล้ว จะทำให้เราแยกออกว่าอะไรสำคัญมาก อะไรสำคัญน้อย และอะไรที่ไม่สำคัญ เราก็ตัดสิ่งนั้นออกไปได้เลย เพราะชีวิตคนเรานั้น มีอะไรที่ต้องทำมากมายจริงๆ และหลายครั้งมันแสดงออกมาในรูปแบบของความเฉื่อยชาในการทำงาน ความเซ็งที่ต้องทำเรื่องเดิมซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น ทำให้การไปถึงเป้าหมายของเราได้ช้าลงและ เราจะมีความสุขกับการทำงานมากขึ้นเมื่อเราได้โฟกัสอะไรซักอย่าง และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ออกไป
3. ไม่ต้องเร่งรีบตลอด ผ่อนคลายบ้าง
บางทีแล้วความทุกข์ของเราอาจไม่ได้เกิดจากความผิดหวังเสมอไป บางทีอาจเกิดจากการที่เราวิ่งตามบางสิ่งบางอย่าง แล้วไปไม่ถึงซักที ทำให้เราเกิดความเครียด ความเบื่อหน่ายกับสิ่งนั้น หากเราได้ผ่อนทำเรื่องที่ผ่อนคลายบ้าง ใช้ชีวิตให้ยืดหยุ่นกว่าเดิมแล้ว เราอาจจะได้เห็นบางสิ่งบางอย่างในชีวิตอีกแง่มุมหนึ่ง แล้วจะทำให้เรามีความสุขกับสิ่ง ๆ นั้นมากขึ้น
4. หยุดพักบ้าง
บางทีการผ่อนแรงจากการทำงานนั้น อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เรามีความสุข หากได้ลองหยุดพักไปทำแต่สิ่งที่เราสนใจ สนุกกับชิวต โดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องงานบ้าง ก็อาจทำให้เรากลับมามีพลัง มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความสุขได้มากกว่าเดิมแล้ว
5. ลองทำในสิ่งใหม่ๆ
การทำงานอยู่กับสิ่งเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ทุกวัน ก็อาจทำให้เราเกิดความเบื่อหน่าย หรือมีความทุกข์ขึ้นมาได้เลย ลองมีความสุขกับสิ่งใหม่ ๆ ในชีวิตดูบ้าง ทำกิจกรรมใหม่ ๆ ให้กับชีวิตดูบ้าง ก็จะทำให้เรารู้สึกสนุก มีพลังมากขึ้นและมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น
6. เข้าใจความรู้สึกคนรอบข้าง
ทุก ๆ ข้อที่ผ่านมานั้น ล้วนเป็นเรื่องที่ทำให้ตัวเรามีความสุขเพิ่มมากขึ้น และเมื่อเรามีความสุขกับการทำงานมากขึ้นแล้ว คนรอบตัวเราจะมีความสุขไปพร้อมกันด้วย หรือหากกลับมามองคนใกล้ตัวและเข้าใจพวกเขามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือลูกน้อง การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีแบบนี้จะช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้นแถมยังมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยจากเคล็ดลั้บ
6 ข้อที่กล่าวมานั้น ทำให้การทำงานที่หนักหนา ท่ามกลางการแข่งขันที่มากขึ้น กลายเป็นการทำงานที่มีความสุขได้ และการทำงานก็ยังมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ดังนั้นการสร้างความสุขในการทำงาน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่องค์กรและ HR ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะทำให้บุคลากรมีศักยภาพในการทำงานมากขึ้นแล้ว ยังทำให้องค์กรประสบความสำเร็จได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
ขอบคุณสาระดี ๆ จาก https://www.humansoft.co.th/th
➡ สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก https://lin.ee/qgdaj2W
➡ ซื้อประกันออนไลน์ คลิก www.kpnclick.com